หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2544
|
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2551
|
1. หลักสูตรไม่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ของหลักสูตร
สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
แต่ได้กำหนดเป็นแนวทางไว้ในเอกสาร แนวทางการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
ให้สถานศึกษากำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามบริบทของสถานศึกษา
|
1. กำหนดวิสัยทัศน์ของหลักสูตร สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อเป็นภาพรวมในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่มีความชัดเจนมากขึ้นสำหรับสถานศึกษาทุกแห่งใช้เป็นกรอบทิศทางในการออกแบบหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่หลักสูตรแกนกลางได้กำหนดไว้
|
2. กำหนดหลักการของหลักสูตร
ดังนี้
1) เป็นการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ
มุ่งเน้นความเป็นไทยควบคู่ความเป็นสากล
|
2. ปรับปรุงหลักการของหลักสูตร
เพื่อให้มีความชัดเจน สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยปรับจากเดิม 5 ข้อ
เป็น 6 ข้อ ดังนี้
1) เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ
มีมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้และคุณธรรมบนพื้นฐานความเป็นไทย
ควบคู่กับความเป็นสากล
|
2) เป็นการศึกษาเพื่อปวงชน
ที่ประชาชนทุกคนจะได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาพ และเท่าเทียมกัน
โดยสังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
|
2) เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน
ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาคและมีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน
|
3) ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาและเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
โดยถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด สามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเต็มตามศักยภาพ
|
3) เป็นหลักสูตรการศึกษาที่ตอบสนองการกระจายอำนาจให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น
|
4) เป็นหลักสูตรที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระ
เวลา และการจัดการเรียนรู้
|
4)
เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลา
และการจัดการเรียนรู้
|
5) เป็นหลักสูตรที่จัดการศึกษาได้ทุกรูปแบบ ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้และประสบการณ์
|
5)
เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
|
6)
เป็นหลักสูตรการศึกษาที่จัดการศึกษาได้ทุกรูปแบบ
ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายสามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์
|
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2544
|
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2551
|
3. กำหนดจุดหมายของหลักสูตร ดังนี้
1) เห็นคุณค่าของตนเอง
มีวินัยในตนเอง ปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ
มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์
|
3. ปรับจุดหมายของหลักสูตร
เพื่อให้มีความชัดเจน สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยจากจุดหมาย 9 ข้อ
เป็น 5 ข้อ ดังนี้
1) มีคุณธรรมจริยธรรม
และค่านิยมที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เห็นคุณค่าของตนเอง
มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ
|
2) มีความคิดสร้างสรรค์ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน
รักการอ่าน รักการเขียน และรักการค้นคว้า
|
2) มีความรู้อันเป็นสากล
มีทักษะในการจัดการ ทักษะกระบวนการคิด ทักษะในการดำเนินชีวิต ทักษะในการสื่อสาร
และการใช้เทคโนโลยี
|
3) มีความรู้อันสากล รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ
มีทักษะและศักยภาพในการจัดการการสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยี ปรับวิธีการคิด
วิธีการทำงานได้เหมาะสมกับสถานการณ์
|
3) มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
มีสุขนิสัย และ รักการออกกำลังกาย
|
4) มีทักษะและกระบวนการโดยเฉพาะทางคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ ทักษะการคิด การสร้างปัญญา และทักษะในการดำเนินชีวิต
|
4) มีจิตสำนึกในการเป็นพลเมืองไทย และพลโลก
ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
|
5) รักการออกกำลังกาย
ดูแลตนเองให้มีสุขภาพและบุคลิกภาพที่ดี
|
5) มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย
การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์
และสร้างสิ่งที่ดีงามและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
|
6) มีประสิทธิภาพในการผลิต
และการบริโภคมีค่านิยมเป็นผู้ผลติมากกว่าเป็นผู้บริโภค
|
|
7) เข้าใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
ภูมิใจในความเป็นไทย
เป็นพลเมืองดียึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
|
|
8) มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ภาษาไทย
ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภูมิปัญญาไทย ทรัพยากรธรรมชาติ และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
|
|
9) รักประเทศชาติและท้องถิ่น
มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามให้สังคม
|
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2544
|
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2551
|
4. โครงสร้างหลักสูตร
4.1 กำหนดเป็น 4 ช่วงชั้น
ดังนี้
ช่วงชั้นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่
1-3
ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่
4-6
ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1-3
ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
4-6
|
4. โครงสร้างหลักสูตร
4.1 กำหนดเป็น 3 ระดับ
ดังนี้
1) ระดับประถมศึกษา (ป.1-6)
2) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3)
3) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6)
|
4.2 กำหนดเวลาเรียนของ
8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
เป็นเวลารวมไว้เป็นช่วงกว้างๆ ในแต่ละช่วงชั้น เช่น ช่วงชั้นที่ 1
(ป.1-3) กำหนดเวลาเรียนทั้ง 8 กลุ่ม
ปีละประมาณ 800-1000 ชั่วโมง
โดยให้สถานศึกษากำหนดเวลาเรียนของแต่ละกลุ่มสาระเองตามความเหมาะสม
|
4.2 กำหนดเวลาเรียนขั้นต่ำของ 8
กลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ล่ะชั้นปี
และให้สถานศึกษาเพิ่มเติมได้ตามความพร้อมและจุดเน้น
เช่นกำหนดเวลาเรียนกลุ่มสารการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้น ป.1 จำนวน
200 ชั่วโมง
|
5. กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ / มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น
5.1
กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ 76 มาตรฐาน
|
5. ปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้และกำหนดตัวชี้วัดชั้นปี
/ ช่วงชั้น
5.1
ปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้ให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน โดยปรับปรุงจาก 76 มาตรฐาน ลดลงเหลือ 67
มาตรฐาน
|
5. 2 กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้นโดยกำหนดไว้เป็นช่วงๆ
ละ 3 ปี
ซึ่งเป็นคุณภาพของผู้เรียนเมื่อจบชั้น ป.3
ซึ่งเป็นคุณภาพของผู้เรียนเมื่อจบชั้น ป. 3 ป.6 ม.3 ม.6
และให้สถานศึกษานำไปเป็นกำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวังเพื่อนใช้เป็นเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ของแต่ละกลุ่มสาระในแต่ล่ะชั้นปีเอง
ซึ่งทำให้ขาดเอกภาพ และมีปัญหาในการเทียบโอนผลการเรียนรู้
|
5.2 กำหนดตัวชีวิดชั้นปีสำหรับการศึกษาภาคบังคับ
(ป.1- ม.3)
และตัวชี้วัดช่วงชั้นสำหรับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4-6
)
เพื่อช่วยให้การจัดการเรียนรู้และการวัดและประเมินผลมีเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละระดับชั้น
รวมทั้งครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ได้เลย
ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระของครู
|
6. กำหนดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น 2
ลักษณะ คือ
1) กิจกรรมแนะแนว
2) กิจกรรมนักเรียน
|
6. ปรับปรุงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
โดยเพิ่มกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกคนทั้งในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
ได้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เพื่อส่วนรวม
ซึ่งเป็นการปลูกฝังให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่กำหนด คือ
การมีจิตสาธารณะ อันจะช่วยให้สังคมเกิดสันติสุข อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
|
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2544
|
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช
2551
|
ดังนั้น ในหลักสูตรแกนกลางฯ จึงได้กำหนดกิจกรรมผู้เรียน เป็น
3 ลักษณะดังนี้
1) กิจกรรมแนะแนว
2) กิจกรรมนักเรียน
3) กิจกรรมเพื่อนสังคมและสาธารณประโยชน์
|
|
7. การวัดและประเมินผล และการจบหลักสูตร
7.1 หลักสูตรกำหลดให้สถานศึกษากำหนดเกณฑ์การจบหลักสูตรเอง
รวมทั้งจัดทำแนวทาง การวัดและประเมินผลตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
|
7. การวัดและประเมินผล และการจบหลักสูตร
7.1 หลักสูตรแกนกลางฯ กำหนดเกณฑ์กลางการจบหลักสูตร
การตัดสินผลการเรียน การให้ระดับผลการเรียน การรายงานผลการเรียน
และเอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงควบคุม
เพื่อให้สถานศึกษาจัดทำแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่หลักสูตรแกนกลางกำหนด
|
7.2
การตัดสินผลการเรียน
- ระดับประถมศึกษา
และมัธยมศึกษาตอนต้น ตัดสินผลการเรียนเป็นรายปี
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตัดสินผลการเรียนเป็นรายภาค
|
7.2 การตัดสินผลการเรียน
- ระดับประถมศึกษา
ตัดสินผลการเรียนเป็นรายปี
- ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและ ตอนปลาย ตัดสินผลการเรียนเป็นรายภาค
|
พระราชดำรัส
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่ครูอาวุโส ประจำปี 2520 ในโอกาสเข้าเฝ้า ฯ รับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2521 “...........ถ้าครูไม่ห่วงประโยชน์ที่ควรจะห่วง หันไปห่วงอำนาจ ห่วงตำแหน่ง ห่วงสิทธิ และห่วงรายได้กันมากเข้า ๆ และจะเอาจิตเอาใจที่ไหนมาห่วงความรู้ ความดี ความเจริญของเด็ก ความห่วงในสิ่งเหล่านั้น ก็จะค่อย ๆ บั่นทอนทำลายความเป็นครูไปจนหมดสิ้น จะไม่มีอะไรดีเหลือไว้ พอที่ตัวเองจะภาคภูมิใจหรือผูกใจใครไว้ได้ ความเป็นครูก็จะไม่มีค่า เหลืออยู่ให้เป็นที่เคารพบูชาอีกต่อไป............” |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น