วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562

แนวข้อสอบกพ.ชุดที่ 2 พร้อมเฉลย (พิเศษ)


ความรู้ทั่วไป
ข.นายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค.ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี*
ก.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม
คำชี้แจง ให้หาคำที่สะกดผิดข้อละเพียงละคำตอบเดียว
คำชี้แจง  จงเลือกคำที่เหมาะสมที่สุดเติมในช่องว่าง
สมความมุ่งหมายของวิชาความสามารถในการใช้ภาษาไทย หากเขียนได้ยังไม่
เรียกว่า เขียนเป็น
 การเรียงข้อความ ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์จะให้พิจารณาข้อความที่เขียนมาให้แล้วให้เรียงข้อความเสียใหม่ ให้ถูกต้องเหมาะสมตาม หลักการใช้ภาษาไทย (เทคนิค ในการทำข้อสอบเรียงข้อความ ผู้สอบต้องอ่านโจทก์ที่เป็นข้อความ แต่ละข้อแล้วนำต่อกันจนเห็นว่าการต่อแบบใดดีที่สุด ก็เลือกคำตอบที่ให้ไว้,หลักการตอบ อย่างอ่านตัวเลขก่อน จงอ่านใจความให้เข้าใจเสียก่อนแล้วจึง เรียงตัวเลขมาเรียงกัน)
ก. ท้องทะเลสีคราม*
จ.นโยบายที่เกี่ยวกับครู
2.         ก.ส่วนแรก      ข.ประการแรก*           ค.ข้อแรก         ง.เบื้องต้น        จ.เรื่องแรก
9.         ก.เรียน             ข.เตือน            *          ค.เน้น              ง.บอก              จ.ย้ำ
            ในประการที่ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติของท่าน เพราะการออกไปเป็นนายทหารนั้นท่านจะเป็นอิสระ และมีโอกาสพบปะกับบุคคลต่างๆ มากกว่าเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่ท่านจะต้องรู้จักบังคับตัวของตนเองให้รู้จักประพฤติปฏิบัติแน่ในสิ่งที่..6. เช่นในการระมัดระวังในเรื่องกิริยามารยาท การประหยัด การคบหาแต่เพื่อนที่ดี และการรักษาความสามัคคีในหมู่คณะเหล่านี้ เป็นต้น จงทำตามแต่ตัวอย่างที่ดี7.พึงหลีกหนีความชั่วทั้งหลาย เช่นการดื่มสุราจนเมามาย หรือการใช้จ่ายที่ไม่คำนึงถึง.8.เหล่านี้เสียข้าพเจ้าขอ.9ว่าเรื่องเสียความประพฤตินี้ได้เคยทำลายอนาคตอันสุกใสของนายทหารมามากต่อมากแล้ว จนต้องออกจากราชการไปก็มีตัวอย่างอยู่..10. จึงขอให้ท่านพึงระมัดระวังให้จงหนัก
ข้อความความเข้าใจภาษา ไม่นิยมถามความจำ ยิ่งเป็นข้อสอบคัดเลือกด้วยแล้วลีลาการตอบจะต้องใช้ความคิดอย่างดีจึงตอบได้ ซึ่งอาจจะถามให้แปลความหมายตีความหมายพยากรณ์ผล แก้ปัญหาวิเคราะห์ปัญหา คือถามหาเหตุผล การให้ประเมินเหตุการณ์ในข้อความนั้นผู้ตอบต้องคิดให้รอบคอบก่อนตอบข้อสรุปทุกครั้งเสมอ
ให้อ่านเมื่ออ่านข้อความที่กำหนดให้แล้ว ตอบคำถามแต่ละข้อที่โจทก์กำหนดไว้
คำชี้แจง จงอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 1-10
ของภาษีถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ขอเลี่ยงไว้ก่อนดีกว่า ซึ่งหลายคนใช้เหตุผลว่า การที่
พวกตนไม่อยากเสียภาษี ใจจริงแล้วพร้อมที่จะเป็นพลเมืองดี เสียภาษีเต็มเม็ดเต็ม
หน่วย ถ้ารัฐจะสร้างความมั่นใจให้กับพวกตนได้ว่าเงินภาษีที่เก็บไปนั้น รัฐได้นำไป
ใช้ประโยชน์ต่อสาธารณะชนต่างๆ อย่างแท้จริง ไม่ใช่ไปหล่นอยู่ในกระเป๋าของ
ใครต่อใคร เสียกว่าครึ่ง เพราะที่ผ่านมา ชั่วความ เรื่องการคอรัปชั่นมีให้ได้ยินกัน
สาธารณชน เพียงหวังอยากสร้างอำนาจหรือเอื้อประโยชน์ กลุ่มอย่างเดียวแล้ว
ใครเขาจะอยากเสียภาษีกันละ
ก.ขี้เหนียว
ก.รัฐบาลนำเงินภาษีไปใช้อย่างถูกต้อง*
สนทนามาให้อ่านบทสนทนาที่กำหนด แล้วตอบคำถามแต่ละข้อที่กำหนดไว้,ข้อ
สอบสรุปความ จะกำหนดบทความมาให้ สรุปผ่อนคลายอารมณ์ เป็นเครื่องช่วยให้
มีมนุษย์สัมพันธ์ได้ดีที่สุด ทั้งเป็นเครื่องช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
อีกด้วย สิ่งที่จะนำมาเป็นหัวข้อสนทนานั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องหนัก หรือ
สลักสำคัญเสมอไป เช่น เรื่องที่เขียนไว้ในตำรา หรือเรื่องการเมือง ฯลฯ แต่เรื่อง
เบาๆ สมอง เช่น อาหาร ความรัก ชีวิต การท่องเที่ยว ฯลฯ
แทบเขยื้อนไม่ได้
วิธีใหม่คราวนี้รับรองได้ผล รถยนต์บนท้องถนนจะมีน้อยลง การจราจรก็จะเริ่มคล่องตัว
เข้าใจกับคำประพันธ์หรือบทกลอนนั้นแล้วตอบคำถาม
บทกลอนผู้ตอบจะต้องเป็นผู้มีความเข้าใจ และรู้หลักเกณฑ์ของคำประพันธ์
ประเภทนั้นๆ ก่อนต้องอาศัยการอ่านและตีความจากคำประพันธ์เพื่อให้ได้ข้อสรุป
ในความหมายที่ได้จากคำประพันธ์โดยอาศัยความหมายของคำจากพจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2542 ประกอบโดยเฉพาะหลักเด่นของคำประพันธ์นั้น
อาทิเป็นคำประพันธ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสาวรจนี นาที ปราโมทย์ พิโรธราหัง และ
สาปังคพิสัย ทั้งนี้เพื่อให้ได้บทสรุปความตามข้อสอบกับคำประพันธ์หรือบทกลอนนั้น
เราก็เหมือนอยู่คง ชีพด้วย
หากสยามพินาศลง ไทยอยู่ ได้ฤา
เราก็เหมือนมอดม้วย หมดสิ้นสกุลไทย
.ความมีเอกราช *
.ความรักชาติ
.ความเจริญของชาติ
.ความมั่นคงของชาติ
.สั่งสอนเยาวชนไทยให้ดี*
.ความมั่นคงของประเทศไทย
.ความสามัคคีของคนไทย
.ความเจริญของประเทศไทย
.ความรักสงบของคนไทย
ใครรานใครรุกด้าว แดนไทย
ไทยรบจนสุดใจ ขาดดิ้น
เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล ยอมสละ สิ้นแล
เสียชีพไป่สูญสิ้น ชื่อก้องเกียรติงาม
.การรุกราน
.การรักษาชื่อเสียง
.การรักษาชีวิต
.การเสียเลือดเนื้อ
.สละชีพเพื่อชาติ *
.รักษาชีวิตไว้
.ยอมสละแผ่นดิน
.ยอมสละทรัพย์สิน
.เสียทรัพย์สิน
.ครอบครัวสุขสบาย
.ได้รับการยกย่อง *
.คนคิดสั้น
.สะสมอาวุธและเสบียง
.สร้างที่หลบภัย
.เดินขบวนประท้วง
.ร้องเพลงปลุกใจ
อ่านข้อความข้างล่างนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 17-21
สรรพากรยืนยันว่า โครงสร้างภาษีใหม่ที่จะเริ่มใช้ปี 2547 จะไม่รีดเลือดจากปู แต่จะอุดรูรั่ว ของภาษี ผู้มีรายได้เท่ากับรายได้ต่ำสุดของข้าราชการ จะไม่ต้องเสียภาษี
17.ข้อความนี้ชี้ให้เห็นนโยบายเกี่ยวกับโครงสร้างภาษีใหม่อย่างไร
.จะลดภาษีให้น้อยลง
.จะลดรายจ่ายของรัฐลง
.จะปรับปรุงวิธีการเก็บภาษี *
.เพื่อหาทางเพิ่มพูนรายได้แก่ประชาชนทุกฝ่าย
.เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนทั่วไป
.เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย *
.จะไม่มีรูรั่วของภาษีที่คนจะหลบเลี่ยงได้อีก
.ประชาชนจะไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มอีกต่อไป
.ผู้มีรายได้น้อย จะไม่ต้องเสียภาษี *
.การเก็บเงินจากนักธุรกิจ
.การเอาเงินจากข้าราชการและประชาชน
.การเอาเงินจากคนไม่ค่อยมีเงิน *
เสือมีเพราะป่าปก และป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดี
22.คำประพันธ์นี้ชี้ให้ผู้อ่านเห็นในเรื่องใด
.สัตว์และพืชต้องอาศัยกัน
.โลกเปรียบเหมือนโรงละคร
.ความสมดุลของธรรมชาติ
.สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
.เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า
.ผัวหาบเมียคอน *
.ความสามัคคี *
.ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง
.การไม่ทำบาป นำสุขมาให้
จงอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 28-31
เพียงพบหน้าตาสบตา ทำไมรักมาจ้องตามืดมัว
มองอะไรเขาดีไปทั่ว ดูจิตใจหวิวไหวเต้นรัว
กงจักรดอกบัวคิดกลัวเสียเมื่อไร
.ที่ใดมีรักที่นั่นมีความสุข
.ความรักทำให้คนตาบอด *
.กามเทพชักนำให้คนรักกัน
.เห็นผิดเป็นชอบ*
.ลุ่มหลงในอบายมุข
.เอาความดีชนะความชั่ว
.ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน *
.อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่
.เมื่อยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน พอเนิ่นนานน้ำอ้อยก็กร่อยขม
ทดสอบความสามารถด้านเหตุผล
32. .กระดาษ                         .โต๊ะ *           .ดินสอ          .ปากกา          .หมึก
33. .บวก       .หาร              .เศษส่วน*     .ลบ                .คูณ
34. .น้ำคำ      .น้ำใจ            .น้ำมือ           .น้ำส้ม*         .น้ำหนัก
35. .ปากบอน            .ปากมาก       .ปากพล่อย    .ปากจัด          .ปากเหม็น *
36. .น้ำผึ้ง      .น้ำตาล         .น้ำหวาน     .น้ำมะนาว*   .น้ำอ้อย
37. .เพลงปรบไก่       .เพลงฉ่อย      .เพลงพวงมาลัย         .เพลงเร่เรือ     .เพลงชาติ*
38. .บาสเกตบอล      .แชร์บอล     .วอลเลย์บอล             .ฟุตบอล*    .แฮนด์บอล
39. .ปากถ้ำ               .ปากทาง       .ปากเหว       .ปากอ่าว        .ปากตลาด *
40. .ปากร้าย              .ปากจัด         .ปากเสีย        .ปากแตก*                 .ปากบอน
41.พ่อ แม่ ลุง…..
.คงเดชชอบเมืองลำพูน
.คงเดชเป็นชาวลำพูน
.ภรรยาคงเดชสวย *
.ยังสรุปแน่นอนไม่ได้
. นายดำ เป็นลูกเขยคนจีน
. นายดำ ทำงานกับคนจีน
. นายดำ ร่ำรวย
. ยังสรุปแน่นอนไม่ได้ *
.ค้างคาวไม่ใช่นก *
.สัตว์ที่บินได้ทุกชนิดเป็นนก
.สัตว์มีหูทุกชนิดเป็นค้างคาว
.สรุปแน่นอนไม่ได้
อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 59. \
.ยกย่องความดี
.ยกย่องคนขยัน
.ยกย่องคนทำกิน *
.รั้วบ้านขนานกับแนวกระถิน *
.รั้วบ้านขนานกับแนวพลับพลึง
.สรุปแน่นอนไม่ได้
คำชี้แจง จงเลือกข้อที่ถูกต้องที่สุด
ก.มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ค.ประชารมาก                                   ง.ทรัพยากรอุดม
ข.เป็นสิทธิและอำนาจของพลเมองของประเทศ*
ข.ความต้องการของประชาชนทั่วไป*
ข.การบังคับเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ
ข.ความเห็นอกเห็นใจระหว่างกัน และหาทางออกแห่งปัญญาร่วมกัน
ข.เป็นขบวนการประชาธิปไตย
ข.การช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ค. แรงงาน เครื่องจัก พาหนะ ธนาคาร*
จ.ความปลอดภัย ความสะอาด ความเจริญ ทางนวัตกรรม ความร่ำรวย
ค.เพิ่มเงินเดือนให้ข้าราชการ*            ง.เก็บเงินเข้าธนาคาร
ข.ที่ดิน แรงงาน ทุน วัตถุดิบ
ก.จะบริโภคอะไร ผลิตอะไร และผลิตเพื่อใคร
ข.กรณีพิพาทแรงงาน
ก.กฎหมาย รัฐบาล และประชาชน
จ.ปทัสถาน กฎหมาย วิถีประชา
ปลัดอำเภอ(เจ้าพนักงานปกครอง) เป็นข้าราชการในสายงานที่มีระดับเริ่มต้นตั้งแต่
ระดับ (ซี) 3-5 หรือ 6ว   เมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่จะสอบเป็น
ระดับ 7    ถ้าสอบได้และได้รับการบรรจุ จึงจะมีสิทธิสอบเพื่อเข้าศึกษาอบรมในหลักสูตรนายอำเภอ ต่อจากนั้นก็ดำรงตำแหน่งระดับ 7 ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงลำดับการขึ้นบัญชีเพื่อแต่งตั้งให้เป็น
ระดับ 8   เริ่มจาก
หัวหน้ากลุ่มงาน ระดับ 8ว
ปลัดอำเภออาวุโส ระดับ 8ว
ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ ระดับ 8ว ต่อจากนั้นจึงจะได้รับการแต่งตั้งเป็น
นายอำเภอ  (เจ้าพนักงานปกครอง 8)  
ผู้อำนวยการกอง ระดับ 8
ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ระดับ 8-9 ชช
ปลัดจังหวัด ระดับ 9
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระดับ 9
ผู้ว่าราชการจังหวัดระดับ 10
อธิบดี ระดับ 10
รองปลัดกระทรวง ระดับ 10
และปลัดกระทรวง ระดับ 11  (ปลัดกระทรวงมีเพียงตำแหน่งเดียว)  

1.โรงเรียนมัธยมศึกษาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร ที่ทรงจัดสร้างขึ้น มีทั้งหมดกี่โรงเรียน
ก. 4 โรงเรียน   ข. 5 โรงเรียน   ค. 6 โรงเรียน*   ง. 7 โรงเรียน
2.ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม แต่มีประเทศเดียว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมและบริการ คือ
ก.ไทย              ข.มาเลเซีย       ค.สิงคโปร์*     ง.ฟิลิปปินส์
3.วันใดเป็นวันสำคัญในด้านการปกครอง
ก. 1 พฤษภาคม                                  ข. 12 สิงหาคม
ค. 5 ธันวาคม                                      ง. 10 ธันวาคม*
4.วันปีใหม่ของไทยในสมัยโบราณตรงกับวันใด
ก. 1 มกราคม                                      ข. 13 เมษายน*
ค. 5 ธันวาคม                                     ง. 31 ธันวาคม
5. เวนิชตะวันออกหมายถึงเมืองใด
ก.โตเกียว         ข.กรุงเทพ*      ค.กัวลาลัมเปอร์           ง.จาการ์ตา
6.บัตรอวยพร (Greeting Gard) ที่มีขึ้นก่อนบัตรอวยพรในเทศกาลอื่นๆ คือบัตรอวยพรในเทศกาลใด
ก.ปีใหม่           ข.คริสต์มาส    ค.วาเลนไทน์* ง.วันแม่
7.หน่วยงานใดในสมัยอยุธยาที่ทำหน้าที่เหมือกระทรวงยุติธรรม
ก.เวียง              ข.วัง*               ค.คลัง              ง.นา
8.อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญนั้น สร้างขึ้นเพื่ออะไร
ก.ทำบุญ          ข.ให้คนกราบไหว้       ค.ระลึกถึงคุณความดี* ง.เป็นประเพณี
9.พระมหากษัตริย์พระองค์แรกในระบอบประชาธิปไตย คือ
ก. พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช       ข.พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ค.พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว*                          ง.พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
10.สาเหตุสำคัญที่เราห้อยพระ
ก.เพื่อให้รู้ว่านับถือศาสนาพุทธ                   ข.เพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า
ค.เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจมิให้กระทำชั่ว*      ง.เพื่อป้องกันผีและอันตรายต่างๆ
11.ชาย หญิง จะให้คำนำหน้าว่า นางสาว หรือนาย เมื่อใด
ก.ชายเมื่ออายุ 15 ปี หญิงเมื่ออายุ 17 ปี
ข.ชายเมื่ออายุ 17 ปี หญิงเมื่ออายุ 15 ปี
ค.เมื่อชายหรือหญิงอายุ 15 ปี*
ง.เมื่อชายหรือหญิงอายุ 17 ปี
12.การบริหารงานส่วนภูมิภาค การเกณฑ์ทหารเป็นหน้าที่ของส่วนราชการใด
ก.สัสดีจังหวัด*                                ข.สรรพกรจังหวัด
ค.สรรพสามิตจังหวัด                       ง.ผู้บังคับบัญชากองพันในจังหวัด
13.จังหวัดใดถือว่าเป็นประตูแห่งภาคอีสาน
ก.สระบุรี         ข.นครราชสีมา*                      ค.ชัยภูมิ           ง.ขอนแก่น
14.วัตถุที่สร้างด้วยมือมนุษย์สิ่งเดียวที่นักบินอวกาศที่เดินทางไปโคจรนอกโลกบอกว่าสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ คืออะไร
ก.พีระมิด                                          ข.หอไอเฟล
ค.กำแพงเมืองจีน*                            ง.สนามกีฬาโดนีเซียม
15.เจดีย์ทรงลังกามีลักษณะอย่างไร
ก.ทรงกลม*     ข.ทรงสี่เหลี่ยมหักมุม  ค.ทรงหกเหลี่ยม          ง.ทรงกลีบเฟือง
16.มรกตแห่งภาคอีสาน เป็นสมญาของอะไร
ก.เขาใหญ่        ข.ภูหลวง*       ค.ทุ่งกุลาร้องไห้          ง.ปราสาทหินพิมาย
17.ลายเซ็นธนบัตรทุกราคาเป็นลายเซ็นของใคร
ก.นายกและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ค.นายกและรองนายกรัฐมนตรี*
ง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
18.อาชีพใดที่รัฐบาลสงวนไว้สำหรับคนไทยโดยเฉพาะ
ก.ตัดผม           ข.ดัดผมสตรี                ค.ทอผ้าไหม*  ง.นักดนตรีไทย
19.การยื่นรายการภาษีเงินได้จะต้องกระทำเมื่อใด
ก.ภายในเดือนมกราคมของทุกปี
ข.ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
ง.ภายในเดือนธันวาคมของทุกปี
20.ใครเป็นผู้ควบคุมรายจ่ายของรัฐบาล
ก. พระมหากษัตริย์                           ข.กระทรวงการคลัง
ค.รัฐสภา*                                         ง.นายกรัฐมนตรี
21.ธนาคารสยามกัมมาจล ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นธนาคารใด
ก.ธนาคารกรุงเทพ                             ข.ธนาคารกสิกรไทย
ค.ธนาคารไทยพาณิชย์ *                    ง.ธนาคารแห่งประเทศไทย
22.ต้นไม้ใดที่เป็นต้นไม้ประจำชาติไทย
ก.บัว                ข.ราชพฤกษ์*              ค.โพธิ์              ง.หางนกยูง
23.ประเทศที่มีภาษาพูดมากที่สุด คือประเทศใด
ก.จีน                ข.อินเดีย*        ค.สหรัฐอเมริกา           ง.สหภาพรัสเซีย
24.เมื่อคนตายในบ้านต้องแจ้งต่อนายทะเบียนท้องถิ่นภายในระยะเวลาเท่าใด
ก. 15 วัน          ข. 10 วัน          ค. 7 วัน            ง. 24 ชั่วโมง*
25.เมืองอกแตก ได้แก่เมืองใด
ก.ธนบุรี           ข.นครสวรรค์  ค.พิษณุโลก     ง.ถูกหมดทุกข้อ*
26.ชื่อรางวัล แมกไซไซ ตั้งตามชื่อประธานาธิบดีของประเทศใด
ก.สหรัฐอเมริกา           ข.อินเดีย          ค.อินโดนีเซีย               ง.ฟิลิปปินส์*
27.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์แรก คือใคร
ก.รัชกาลที่ 5                                      ข.รัชกาลที่ 6
ค.เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ*                     ง.เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์
28.ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา คือใคร
ก. ยอร์จ วอชิงตัน*                            ข.อับราฮัม ลินคอล์น
ค.ไอเซนฮาวท์                                   ง. ทรูแมน
29.แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 เริ่มใช้ และสิ้นสุดเมื่อใด
ก. 2535-2539                                    ข. 2540-2544
ค. 2545-2549*                                     ง. 2546-2550

30.วันมรดกไทย ตรงกับวันใด
ก. 2 เมษายน*     ข. 12 เมษายน      ค. 22 เมษายน      ง.13 เมษายน
31.บทบัญญัติที่ว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกัน จะแบ่งแยกมิได้ เป็นบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญมาตราใด
ก. มาตรา 1*    ข. มาตรา 2      ค. มาตรา 3      ง. มาตรา 4
32.รัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทย มีชื่อเรียกว่าอย่างไร
ข.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)
ค.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2475
ง.พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475*
33.ประธานรัฐสภาคนแรกของไทย คือใคร
ก.เจ้าพระยาพิชัยญาติ                       ข.เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี*
ค.พระยามานวรราชเสวี                   ง.พระยาศรยุทธเสนีย์
34.ข้อใดคือนายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย
ก. พระยาพหลพลพยุหเสนา             ข.จอมพล ป.พิบูลสงคราม
ค.พระยามโนปกรณ์นิติธาดา*          ง.พันตรีควง อภัยวงศ์
35.พรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดในเมืองไทย คือพรรคใด
ก.ชาติไทย                                         ข.ชาติพัฒนา
ค.ประชาธิปัตย์  *                              ง.ไทย รัก ไทย

ความรู้ทั่วไป เกี่ยวกับวิชาภาษาไทย
ตอนที่ 1 คำศัพท์
คำ คือถ้อยคำที่กล่าวออกมาให้รู้เฉพาะคำหนึ่งๆ เท่านั้น คำประกอบด้วยคำผสมอย่างน้อย 3 ส่วน คือ พยัญชนะต้น,สระ, เสียงหรือวรรณยุกต์ และมีส่วนอื่นๆ มาประกอบเข้าอีกด้วยตามความจำเป็น ได้แก่ ตัวสะกดและตัวการันต์
คำศัพท์ หมายถึงคำยากที่ต้องแปล, ตามหลักสูตรการสอบเข้ารับราชการจะทดสอบเกี่ยวกับ
1.การสะกดคำ
2.การอ่านคำ
3.ความหมายของคำหรือกลุ่มคำ
4.การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ
 การสะกดคำ ข้อสอบประเภทนี้เป็นการวัดการสะกดคำ โจทก์: จะกำหนดคำมาให้แล้วให้หาคำที่สะกดผิดหรือให้หาคำที่สะกดถูก

1. ก.ภูษิต         ข. ภูธร             ค.ภูบาล           ง.ภูวนัย*          จ.ภูวเนตร
2. ก.ลำไย*      ข.ชักใย            ค.สายใย          ง.ห่วงใย           จ.เยื่อใย
3. ก.ตักบาตร   ข.ลูกบาศ         ค.บาดหลวง*  ง.บาดทะยัก     จ.บ่วงบาศก์
4. ก.วิวาท        ข.เถรวาท        ค.มุสาวาส*     ง.โอวาท          จ.วาทการ
5. ก.เสื้อเชิ๊ต     ข.สมุดโน๊ต*    ค.ไม้ก๊อก         ง.ขนมเค้ก       

การอ่านคำ ข้อสอบประเภทนี้ โจทก์ : จะกำหนดคำและคำอ่านมาให้แล้วให้เลือกคำอ่านผิดหรือ คำอ่านถูก กำหนดคำมาให้พร้อมทั้งคำอ่าน 5 คำ ให้พิจารณาคำว่าคำใดอ่านผิด หรืออาจถามโดยยกคำศัพท์พร้อมทั้งการอ่านมาให้ แล้วความว่าอ่านอย่างไรผิด หรืออ่านอย่างไรถูก หรืออาจจะถามคำอ่านว่ามีกี่พยางค์ หรือออกเสียงใดไม่ออกเสียงใด หรือกำหนดข้อความมาใช้ หาคำที่เขียนผิดในข้อความนั้น หรืออาจให้พิจารณาว่าคำที่กำหนดให้นั้นจะต้องนำข้อใดมาเติมจึงจะถูกต้อง
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกเพียงคำตอบเดียว ข้อใดเป็นคำอ่านที่ถูกต้อง
1. ประวัติศาสตร์
ก. ประ วัติ ติ สาด                     ข. ประ หวัด ติ สาด*
ค. ประ หวัด สาด                         ง. ประ วัด สาด
2. ผลิตภัณฑ์
ก. ผะ หลิ ตะ พัน                      ข. ผะ หลิด ตะ พัน*
ค. ผลิด ตะ พัน                            ง. ผลิด พัน
3. ปรัชญา
ก. ปรัด ยา*                                      ข. ปรัด ชะ ยา
ค. ปะ รัด ชะ ยา                         ง.  ปะ หรัด ชะ ยา
4.ตัวย่อ ศธ อ่านคำเต็มที่ถูกต้องว่าอย่างไร
ก. สึก สา ทำ                                ข. สึก สา ทิ กาน*
ค. สาด สะ นะ ทำ                     ง. สา ทา สะ นะ สุก
5. จรดพระมังคัล
ก. จะ รด พระ นัง คัน             ข. จด พระ นัง คัน
ค. จะ หรด พระ นัง คัน*        ง. จรด พระ นัง คัน

ความหมายของคำหรือกลุ่มคำ ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์กำหนดให้เลือกข้อความที่มีความหมายตรงกับ คำ หรือข้อความที่กำหนดให้ หรืออาจให้อธิบายความหมายของสำนวน สุภาษิต คำพังเพย หรือให้เลือกคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกับคำที่กำหนดให้ หรือแตกต่างไปจากคำอื่น

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำเดียว
1. นอนหลับทับสิทธิ์
ก.ไม่มีสิทธิ์                                       ข.ไม่แสดงหน้าที่ของตน
ค.ไม่เอาใจใส่ ใช้สิทธิ์ที่ตนมี*            ง.ไม่รู้ว่าตนมีสิทธิ์
2. คำใดที่มีความหมายแตกต่างไปจากคำอื่น
ก.กรุณา           ข.เมตตา          ค.สงสาร          ง.ชมเชย*
3. เธอทำไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความหมายตรงข้ามกับคำใด
ก.รอบคอบ*    ข.เลิ่นเล่อ         ค.สะเพร่า        ง.ประมาท
4. เขาเป็นคน ขี้ตืด อย่างมาก
ก.เห็นแก่ตัว     ข.เห็นแก่ได้     ค.ละโมบ         ง.ตระหนี่เหนียวแน่น*
5. เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน เข้าลักษณะใด
ก.ศรศิลป์ไม่กินกัน                            ข.ยุให้ตำรำให้รั่ว*
ค.ถึงพริกถึงขิง                                   ง.คดในข้องอในกระดูก

การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์จะกำหนดให้เลือกคำที่เหมาะสมเพื่อเติมในช่องว่าที่เว้นไว้ เพื่อให้ได้ความสมบูรณ์ถูกต้อง หรือคำใดในกลุ่มคำนั้นจึงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุด เติมในช่องว่างของข้อความนั้นแล้วได้ความสมบูรณ์
1. ที่ห้องดนตรีมีระนาดสอง……………….
ก.ตัว                ข. อัน              ค. เลา              ง. ราง*
2. คอยไปเถิด…………เขาจะต้องกลับมา
ก. ในไม่ช้า      ข. ไม่นานนัก  ค. ไม่กี่วัน        ง. สักวันหนึ่ง*
3. จะลำบากยากเย็นอย่างไรเราก็ต้อง……………
ก. มานะ          ข. กัดฟัน         ค. อดทน*       ง. ฮึดสู้
4. คนสวมเสื้อผ้าป้องกันความอายหรือ…………ตา
ก. อนาถ          ข. ทุเรศ           ค. อุจาด*         ง. ระคาย
5. จักรเย็บผ้า…………นี้ใช้ดีมาก
ก. คัน              ข. หลัง *         ค. เครื่อง             ง. อัน

ตอนที่ 2 การเขียน
การเขียน คือ การเรียบเรียงถ้อยคำ ข้อความ ได้อย่างถูกต้องและสละสลวยเขียนถูกต้องตามพจนานุกรม ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ถูกต้องตาม สะกดการันต์ ตามหลักสูตร การเขียน ได้แก่ การเรียงข้อความการแต่งประโยค การย่อความ การเขียนอธิบายความหมายของคำ
การเขียน ผู้เขียนต้องเขียนอย่างถูกต้อง สามารถในการเรียงถ้อยคำให้เป็นประโยค และข้อความอย่างถูกต้องสละสลวย, เป็นการแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก และความต้องการของผู้ส่งสารสื่อความหมายออกเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ผู้รับสามารถอ่านเข้าใจในการรับทราบความรู้ความคิด ความรู้สึก และความต้องการสิ่งนั้น
หลักการเขียน การเขียนหนังสือต้องเขียนถูกและเขียนเป็น
การเขียนเป็น หมายถึงการเขียนเพื่อบอกให้ผู้อื่นรู้เรื่อง และเข้าใจเจตนาเอาความประสงค์ของผู้เขียนเรื่องการเขียนเป็นนี้ ต้องฝึกให้เกิดความชำนาญ จึงจะได้ผล
การเขียนถูก หมายถึง เขียนได้ตามหลักเกณฑ์ การสะกดการันต์จึงเป็นเรื่องสำคัญในการใช้ภาษาไทย เพราะถ้าเขียนไม่ถูกความหมาย ความหมายก็เปลี่ยนไป เช่น อนุญาต หมายถึงยินยอม ยอมให้ ตกลง แต่ถ้าเขียนเป็นอนุญาต ความหมายก็เปลี่ยนไป ทั้งนี้เพราะคำว่า ญาติ ตามพจนานุกรรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 (ยาด,ยาติ) น.คนในวงศ์วานที่ยังนับรู้กันได้ทางเชื้อสายฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่ หลักเกณฑ์การเขียนอยู่ในวิชาหลักภาษาไทยต้องฝึกบ่อยๆ จะเกิดความจำและเป็นประโยชน์ในการใช้ภาษาไทย
 คำชี้แจง จงเรียงข้อความให้ถูกต้อง
1.         1.การที่ช่วยงานหลายๆข่ายงาน                                                                              2.ในสถาบันต่างๆ มีการปฏิบัติงานคล้ายๆกัน
            3.จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างแกนรวม                                                                        4.เพื่อประสานประโยชน์ร่วมกัน
                        ก.3 2 4 1          ข.2 3 4 1          ค.1 2 3 4*        ง.4 3 2 1
2.         1.แนวทางแก้ไขปัญหาหากร่วมกันทำก็จะเป็นเรื่องดีมาก
            2.ฉะนั้นโดยภาพรวมแล้ว
            3.เมื่อแบ่งส่วนรับผิดชอบแล้วก็จะง่ายเข้า                                                            4.ปัญหาที่เคยยากๆ
                        ก.1 2 3 4          ข.2 3 4 1          ค.4 3 2 1*        ง.3 2 4 1
3.         1.เสียงที่นั่งอย่างเฉียบขาดนั้นเป็นเสียงผู้หญิง
            2.เขาเคยเห็นผู้หญิงหลายคนฆ่าคนตาย
            3.ซึ่งไม่ได้ทำให้เขาสบายใจเลยแม้แต่นิดเดียว
            4.ยืนอยู่นิ่งอย่างนั้นแหละ
                        ก.2 1 4 3          ข.1 4 2 3          ค.2 3 4 1*        ง.1 3 2 4
4.         1.มนุษย์โลกอาศัยพลังงานของสายน้ำ สายลม แสงแดด ไฟ สัตว์เลี้ยง และแรงงานคน
            2.และมนุษย์ก็อยู่กับธรรมชาติด้วยความสันติสุขมาโดยตลอด
            3.สมัยก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป
            4.เพื่อให้งานต่างๆ สำเร็จลุล่วง
                        ก.1 2 3 4          ข.4 1 2 3          ค.3 1 4 2*        ง.1 3 2 4
5.         1.รางวัลชนะเลิศเป็นโล่รางวัลของประธานรัฐสภา
            2.รางวัลรองชนะเลิศเป็นโล่รางวัลของประธานสภาผู้แทนราษฎร
            3.พร้อมใบประกาศเกียรติคุณและทุนการศึกษา 2,000 บาท
            4.พร้อมใบประกาศเกียรติคุณและทุนการศึกษา 3,000 บาท
                        ก.1 2 3 4          ข.4 3 2 1          ค.2 4 1 3          ง.1 4 2 3*

การแต่งประโยค ข้อสอบประเภทนี้ : โจทก์จะให้พิจารณาประโยคแต่ละประโยคว่า ประโยคใดแต่งได้ถูกต้องตามหลักภาษามากที่สุด
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. ข้อใด ไม่ เป็นประโยค
ข. ห้องนี้จุคนได้น้อย
ค. มรรยาทของเขาดีมาก
ง. ฝันสลายเมือรู้ความจริง
อ่านประโยคในข้อ 1 4 แล้วตอบคำถามข้อ 3 5
1.เขาคนเดียว                           2.ใครที่มากับเขา
3.ใครคนหนึ่งล้มลง                 4.เราไม่ชอบอาหารรสเผ็ด
 3.ข้อใดเป็นประโยคปฏิเสธ
ก. 1                  ข. 2                  ค. 3                  ง. 4*
4.ข้อใดไม่เป็นประโยค
ก. 1*                ข. 2                  ค. 3                  ง. 4
5.ข้อใดเป็นประโยคบอกเล่า
ก. 1                  ข. 2                  ค. 3 *               ง. 4

การย่อความ ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะกำหนดข้อความมาให้แล้วย่อใจความหรือสรุปสาระสำคัญ,หรือให้ข้อความมาแล้วให้ตั้งชื่อเรื่อง,หรือถามว่าข้อความมีใจความโดยย่อตรงกับข้อใด
คำชี้แจง จงอ่านข้อความข้างล่างนี้แล้วตอบคำถาม
            นางสิริกร มณีรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการกวดขันจรรยาของครูว่า กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเห็นว่าครูและบุคคลทั่วไป เห็นแบบฉบับของความดีงาม ถูกต้องของสังคม กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กวดขันในเรื่องจรรยามารยาทครู นับตั้งแต่การแต่งกาย ควรจะเป็นระเบียบเรียบร้อยสมแก่ตำแหน่งฐานะ ไม่ใช่แต่งกันตามสบายอย่างอาชีพอื่นซึ่งเครื่องแต่งกายอื่น นอกจากจะเป็นการสร้างบุคลิกภาพแล้วยังบอกความเป็นใครด้วย
            รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากเสื้อผ้าอาภรณ์การแต่งกาย แล้วการวางตัวของครูเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาเข้มงวดกวดขันด้วยให้พยายามละเว้นอบายมุข เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เล่นการพนัน เป็นต้น โดยจะขอความร่วมมือจากครู อาจารย์ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ภาพพจน์ เกียรติยศ ชื่อเสียงของครู เป็นที่น่านิยมยกย่องแก่บุคคลในวงการทั่วไป
1.ข้อความข้างบนมีใจความโดยย่อความกับข้อใด
ก.กระทรวงศึกษาธิการกวดขันในเรื่องการแต่งกายของครู
ข.นางสิริกร มณีรินทร์ ตักเตือนให้ครูดำรงตนเป็นปูชนียบุคคลและพยายามละเว้นอบายมุข
ค.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ครูช่วยสร้างภาพพจน์ เกียรติยศ ชื่อเสียงของครู
ง.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการกวดขันจรรยาของครู*
จ.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้สัมภาษณ์ นโยบายรีบด่วนที่เกี่ยวกับครู

2.ข้อความข้างต้นนี้ควรตั้งชื่อเรื่องตามข้อใดจึงเหมาะสมที่สุด
ก.ปูชนียบุคคล                                   ข.การแต่งกายของครู
ค.การกวดขันจรรยาของครู*             ง.ภาพพจน์ของกระทรวงศึกษาธิการ

การเขียนอธิบายความหมายของคำ ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะให้เขียนข้อความสั้นๆ ของคำแต่ละคำ โดยอธิบายความหมายของคำ ให้ถูกต้องตามความหมายของคำแต่ละคำนั้นหรือให้เลือกคำเติมในช่องว่างที่ให้ไว้ถูกต้องสมบูรณ์เทคนิคในการทำข้อสอบ ต้องจำคำสุภาษิต,คำพังเพย,สำนวนที่พบบ่อยๆ และรู้ความหมายของวลีเดิม
ตัวอย่าง การเขียนอธิบายความหมายของคำ
คำชี้แจง จงเลือกคำสั่งวลีที่ให้ไว้ในช่องว่างให้ถูกต้องสมบูรณ์
1.         ก.กล่าว                        ข.อ้าง               ค.นำ*              ง.บอก              จ.พูด
3.         ก.เลิก               ข.ทิ้ง                ค.หยุด*                       ง.ทิ้งขว้าง        จ.ละทิ้ง
4.         ก. พัฒนาการ   ข.วิวัฒนาการ  ค.พัฒนา*        ง.เปลี่ยนแปลง จ.เติบโต
5.         ก.เสียเลย          ข.เสียทีเดียว*   ค.เป็นอันขาด  ง.อย่างเด็ดขาด จ.ของคนเสีย
6.         ก.ถูก                ข.ควร              ค.ชอบ*                       ง.ดี                   จ.งาม
7.         ก.จง                 ข.อย่า              ค.และ*                        ง.ให้                 จ.อนึ่ง
8.         ก.อดีต             ข.ปัจจุบัน        ค.อนาคต         ง.ฐานะ            *          จ.เงินเดือน
10.       ก.ฉะนั้น*        ข.สรุปแล้ว      ค.เพราะฉะนั้น ง.ดังนี้              จ.โดยสรุป
            ข้าพเจ้าจะขอ……1..เอาข้ออันควรประพฤติปฏิบัติเฉพาะที่สำคัญๆ มาตักเตือนท่านไว้ ดังต่อไปนี้
            ใน..2.ก็คือเรื่องการศึกษา ซึ่งส่วนมากมักจะเข้าใจผิดกันว่า ตนได้ศึกษามานานพอแล้ว และพากัน.3.เสีย อันนี้นับว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างสำคัญที่สุด จริงอยู่ในการทำงานนั้นเราต้องการใช้ความสามารถเป็นประการสำคัญ แต่ก็ขออย่างได้ลืมเสียว่า บันได้ที่จะนำเราไปสู่ความเป็นผู้มีความรู้ความสามารถได้อย่างดีนั้น ก็คือการศึกษามั่นคง และยิ่งในสมัยที่วิชาการของโลกกำลังมี4ไปสู่การเป็นผู้ล้าสมัยได้อย่างน่าเสียดายที่สุดฉะนั้นสิ่งสำคัญประการแรกที่ข้าพเจ้าอยากเตือนท่านไว้ในโอกาสนี้ก็คือ จงอย่างได้ละทิ้งการศึกษา..5.
ตอนที่ 3 ความเข้าใจภาษา
ความเข้าใจภาษา หลักสูตรทดสอบเกี่ยวกับการอ่าน จับใจความ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ เรื่องราว บทความหรือข้อความที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถามในแต่ละบทความ หรือข้อความนั้นรวมทั้งการสรุปความ การตีความ และขยายความด้วย
ความเข้าใจภาษา นิยมใช้วัดความสามารถทั่วไปอย่างมาก ข้อสอบจะกำหนดสถานการณ์ซึ่งอาจจะเป็นบทความ ภาพหรือสิ่งอื่นๆ ให้แล้ว จะถามผู้สอบว่า มีความเข้าใจสถานการณ์ในการอ่านนั้นเพียงใด การตอบข้อคำถามจำเป็นต้องอาศัยสถานการณ์เสนอแนวทางการถามมักจะถามให้วิเคราะห์สถานการณ์ เช่น ควรตั้งชื่อบทความนี้ว่าอย่างไร ผู้เขียนมีความประสงค์ใด บทความนี้ให้แนวคิดเราอย่างไร อาจสรุปข้อความนี้ได้อย่างไร ข้อความนี้มีประเด็นสำคัญใด จุดใดเป็นหัวใจของบทความนี้

แบบการทำความเข้าใจข้อความ ข้อสอบประเภทนี้ โจทก์ :  จะกำหนดข้อความมา
คนไทยเรามีลักษณะอย่างหนึ่งคือ พร้อมจะเสียเงินในหลายๆ เรื่อง แต่กับเรื่อง
หนาหู รวมไปถึงการนำภาษีอากรไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ มิได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ
1.ข้อใดเป็นเหตุผลที่ผู้เขียนอ้างว่าคนไทยบางคนไม่ชอบเสียภาษี
ข.รายได้ไม่พอเสียภาษี
ค.ไม่มั่นใจในการใช้เงินเสียภาษีของรัฐบาล*
ง.มองไม่เห็นความสำคัญของเสียภาษี
2.สาธารณชน ในที่นี้หมายถึงอะไร
ก.ประชาชนทั่วไป                            ข.ความสุขของประชาชน
ค.สมบัติของประชาชน*                     ง.ประชาชนบางกลุ่ม
3.คำว่า คอรัปชั่น ควรใช้เป็นภาษาไทยอย่างไร
ก.การคดโกงเพื่อหวังสร้างอำนาจ*     ข.ความเห็นแก่ได้
ค.ความโลภ                                       ง.ทุจริต
4.การนำเงินภาษีอากรไปใช้ผิดวัตถุประสงค์เกิดผลเสียอย่างไร
ก.เสียงประมาณ                                ข.เศรษฐกิจ*
ค.เงินไม่พอใช้                                   ง.ขาดดุลการค้า
5.ผู้เขียนกล่าวว่าเงื่อนไขที่คนไทยพร้อมจะเสียภาษี คือข้อใด
ข.รัฐบาลปราบคอรัปชั่นเป็นผลสำเร็จ
ค.รัฐบาลไม่ทำการเพื่อหวังสร้างอำนาจ
ง.รัฐบาลไม่เห็นแก่คนบางกลุ่ม
6.คำในข้อใดที่มีความหมายต่างจากคำ เลี่ยง
ก.ไม่ตรง          ข.เสี่ยง*                       ค.หลีก             ง.หลบ
7.บทความนี้ผู้เขียน เขียนจากข้อมูลใด
ก. ความเป็นจริง
ข.การสำรวจความเห็น*
ค.ความเห็นของคนไทยส่วนใหญ่
ง.ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง
8.ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์อย่างไรในการเขียนบทความนี้
ก.ให้แตกความสามัคคี
ข.ให้คนไทยเกลียดชังรัฐบาล
ค.ให้รัฐบาลปรับปรุงการใช้จ่ายเงินภาษีอากร*
ง.ให้รัฐบาลเลิกเก็บภาษีจากประชาชนชาวไทย
9.ผู้เขียนมีความเห็นว่าคนไทยมีลักษณะอย่างไร
ก.ขี้เหนียว                                         ข.ไม่ทุจริต
ค.เจ้าสำราญ                                      ง.ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย*
10.การเสียภาษีมีลักษณะอย่างไร
ก.ทุกคนต้องเสียภาษี                        ข.ผู้มีรายได้ต้องเสียภาษี*
ค.ยอมให้มีการหลีกเลี่ยงได้             ง.ใครจะเสียภาษีได้ไม่เสียก็ได้

แบบทำความเข้าใจบทความ,บทสนทนา
แบบทำความเข้าใจบทความ บทสนทนา ข้อสอบประเภทนี้ : โจทย์จะกำหนดบท
คำชี้แจง อ่านบทสนทนาแล้วตอบคำถาม
คนแรก ข้าไม่อยากขับรถเข้ากรุงเทพฯ เอ้ย.พับผ่า ขนาดวันเวย์แล้วรถยังติด
คนที่สอง วันเวย์ไม่ได้ผลเพราะรถยนต์มีมากขึ้นทุกวัน กรมตำรวจกำลังทดลอง
คนแรก ตำรวจเขามีวิธียังไง
คนที่สอง สนับสนุนให้สร้างโรงแรมม่านรูดเยอะๆ
1.ลักษณะของการสนทนาเป็นแบบใด
ก.อภิปราย       ข.ปรึกษา         ค.วิจารณ์*       ง.ปรับทุกข์      จ.บอกเล่า
2.คนที่หนึ่งไม่ชอบอะไร
ก.วันเวย์          ข.รถติด           ค.กรุงเทพฯ*   ง.ตำรวจ           จ.โรงแรมม่านรูด
3.คนที่สองพูดในลักษณะใด
ก.ท้าทาย         ข.ประชด*       ค.รำคาญ         ง.เพ้อเจ้อ         จ.จริงจัง
4.สองคนนี้น่าจะสนทนากันที่ไหน
ก.ชานกรุงเทพฯ *                             ข.ในกรุง
ค.ที่ทำงาน                                         ง.ที่บ้าน
จ.ในโรงแรมม่านรูด

บทกลอนหรือโคลง
ข้อสอบประเภทนี้ โจทย์ : จะยกบทประพันธ์หรือบทกลอนให้อ่าน และให้ทำความ
เทคนิค การตอบคำถามแบบสรุปความโดยการตีความหมายจากคำประพันธ์หรือ
คำชี้แจง จงใช้คำประพันธ์นี้ตอบคำถามข้อ 1 และข้อ 2

น้ำปลาโอชารส         มาตรแม้นมดหมดเมืองมา
ได้ลิ้มชิมน้ำปลา          จะดูดดื่มลืมน้ำตาล
1.ข้อใดต่อไปนี้เหมาะที่จะใช้ในโอภาสใด
ก.เชิญชวน*     ข.ชี้แจง            ค.แจ้งความ     ง.ประกาศ        จ.โฆษณา
2.ผู้เขียนข้อความต้องการเน้นเรื่องใด
ก.น้ำปลา*       ข.น้ำตาล         ค.รสโอชา       ง.นิยมมด         จ.เปรียบคนกับมด

คำชี้แจง จากกลอนนี้จงตอบข้อ 3-5
มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท              อย่างให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง         อย่าว่างลงให้มากจะยากนาน
3.กลอนนี้แต่งเพื่ออะไร
ก.เตือนใจ                                          ข.สอน*
ค.เปรียบเทียบ                                    ง.แนะนำ
จ.ชี้แจง
4.เป็นคำประพันธ์ชนิดใด
ก.กาพย์            ข.กลอน*         ค.โครง            ง.ฉันท์             จ.ร่าย
5.วรรคใดมีสัมผัสดีที่สุด
ก.วรรคแรก     ข.วรรคสอง     ค.วรรคสาม*   ง.วรรคสี่          จ.ทุกวรรค




ให้อ่านโครงสยามมานุสตินี้แล้วตอบคำถาม ข้อ 1-6
หากสยามยังอยู่ยั้ง ยืนยง
1.โคลงบทนี้กล่าวถึงเรื่องอะไร
.ความสามัคคี
2.เอกราชของชาติคล้ายกับอะไรของมนุษย์
.เลือดเนื้อ       .ชื่อเสียง         .ชีวิต*            .จิตใจ           .กำลังกาย
3.ถ้าชาติเสียเอกราชประชาชนจะเป็นอย่างไร
.เสียชีวิต        .เสียกำลังใจ     .เสียอิสรภาพ*    .เสียอนาคต   .เสียชื่อเสียง
4.ท่านอาจแสดงความรักชาติได้โดยวิธีใด
.เดินทางทั่วเมืองไทย ข.คบแต่เพื่อนคนไทย
.สอนวิชาประวัติศาสตร์ไทย
.พูดภาษาไทย
5.จากโครงบทนี้ผู้แต่งมุ่งแสดงอะไร
.ความกล้าหาญของคนไทย *
6.ท่านคิดว่าผู้แต่งโคลงนี้เป็นบุคคลประเภทใด
.รักชาติยิ่งชีพ*   .รักชื่อเสียง    .รักความสัตย์    .รักความสงบ     .รักชีวิต

อ่านข้อความนี้แล้วตอบคำถามข้อ 7-10
มีเสียงตะโกนจากประตูหน้า หน้าว่าง เหยียบเลยลูกพี่ 120”
7.คำว่า เหยียบมีความหมายตรงกับข้อใด
.เร็ว               .เร่ง*              .วาง               .กด                .กระทืบ
8.เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นที่ใด
.ร้านเหล้า       .บนรถเมล์ *    .บนรถไฟ     .บนรถแท๊กซี่     .ในโรงหนัง
9.ผู้พูดควรจะเป็นใคร
.นายตรวจ        .ผู้โดยสาร        .คนขับ      .กระเป๋า*      .ยังสรุปแน่นอนไม่ได้
10.ตัวเลข “120” หมายถึงอะไร
.ราคา             .จำนวน         .ระยะทาง      .ความเร็ว*   .จำนวนครั้ง

อ่านโคลงบทนี้แล้วตอบคำถามข้อ 11-16

11.โคลงบทนี้กล่าวถึงเรื่องใด
.การป้องกันประเทศ *
12.คนใดตายอย่างมีเกียรติ
.นักปราชญ์               .นักเลง          .นักรัก           .นักรบ*         .นักล้วง
13.ถ้าประเทศชาติถูกรุกราน คนไทยจะทำอย่างไร
.รักษาเกียรติไว้
14.คนที่ป้องกันประเทศชาติจนตัวตายจะเป็นอย่างไร
.ประเทศไม่เสียเอกราช
15.โคลงบทนี้ส่งเสริมลัทธิใด
.ชาตินิยม*     .คอมมิวนิสต์     .เผด็จการ    .ประชาธิปไตย     .เสรีภาพ
16.ถ้าชาติถูกรุกรานควรทำอย่างไร
.รวมกำลังป้องกัน *

.จะเพิ่มภาษีมากขึ้น
18. “ปูในที่นี้หมายถึงใคร
.นักธุรกิจ      .ประชาชน*      .พ่อค้าแม่ค้า     .ข้าราชการชั้นผู้น้อย


19.อะไรเป็นเหตุผลให้สรรพากรปรับปรุงโครงสร้างภาษีใหม่
.เพื่ออุดช่องโหว่ของภาษีเงินได้ของรัฐ
20.สิ่งใดเป็นผลสืบเนื่องจากการกระทำในเรื่องนี้
.ข้าราชการจะไม่ต้องเสียภาษี
21. “รีดเลือดจากปูมีความหมายตรงกับข้อความใด
.การเก็บเงินจากคนมั่งมี
อ่านข้อความข้างล่างนี้ แล้วตอบคำถามข้อ 22-27
.โลกต้องพึ่งพาอาศัยกัน*
23.คำประพันธ์ข้างต้นนี้ จัดอยู่ในประเภทใด
.โคลง            .ฉันท์            .กาพย์ *         .กลอน
24.ผู้แต่งใช้วิธีการใดจูงใจผู้อ่าน
.เปรียบเทียบ             .ชักจูง            .ยั่วยุ              .ยกตัวอย่าง*
25.คำใดมีความหมายตรงข้ามกับคำว่า รก
.บาง              .โล่ง              .เตียน*                      .ห่าง
26.คำประพันธ์นี้สอดคล้องกับคำพังเพยหรือภาษิตใด
.ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
27.ควรใช้คำประพันธ์นี้ประกอบความเรียงเรื่องใด
.ความรักชาติ

ความรัก ความรักเจ้าขา จู่ๆ ก็มาไม่ทันตั้งตัว
28.คำประพันธ์นี้มีลักษณะอย่างไร
.ห่วงใย          .บูชา              .เพ้อฝัน*                   .ชักชวน
29.ข้อใดสรุปเนื้อความข้างต้นนี้ได้เหมาะสมที่สุด
.ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ
30. “กงจักรดอกบัวหมายความว่าอย่างไร
.เห็นชอบเป็นผิด

31.ข้อความใดมีความหมายเหมือนคำประพันธ์ข้างต้น
.ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน

.น้อง              .พี่                  .ป้า*              .น้า                 .ลูก
42.รถยนต์ ม้า เรือ……..
.ไถนา            .แกะ              .วัว                .รถไฟ*          .จรวด
43.สถาบัน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย……….
.โรงแรม        .โรงพิมพ์       .โรงเรียน*     .โรงสี             .โรงทาน
44.ความดี :หอม ความชั่ว: ?
.เหม็น*         .เลว               .ร้าย               .ดำ                 .มืด
45.ครู : สอน พระ : ?
.สวดมนต์      .เทศน์ *         .ลูกศิษย์         .อภิปราย        .ท่อง
46. ต้นไม้ : ปุ๋ย คน : ?
.อาหาร          .ข้าว              .น้ำ                .วิตามิน*       .อากาศ
47. ช้าง : งวง คน : ?
.ปาก              .มือ                .เท้า               .จมูก*            .แขน
48. โตโยต้า : ญี่ปุ่น โฟล์ค : ?
.อังกฤษ         .ฝรั่งเศส        .เยอรมัน*      .อิตาลี            .สวีเดน
49.สาวลำพูนทุกคนเป็นคนสวย คงเดชมีภรรยาเป็นชาวลำพูน ฉะนั้น
.คงเดชเป็นคนรูปหล่อ
50.คนจีนขยันทุกคน นายดำ ขยัน ฉะนั้น
. นายดำ เป็นคนจีน
51. .สูงกว่า ข. .ต่ำกว่า ค. .สูงกว่า ง. และ ก.ต่ำกว่า ง. ดังนั้น
. .สูงที่สุด*              . .สูงที่สุด ค.            .สูงกว่า ก.
. .ต่ำกว่า ข.              .ยังสรุปไม่ได้
52.ค้างคาวเป็นสัตว์ที่มีใบหู และบินได้อย่างนก แต่นกไม่มีใบหู ดังนั้น
.ค้างคาวคือนก
53.ศาสนาคริสต์ : ไม้กางเขน ศาสนาพุทธ : ?
.ธรรมจักร*               .ไตรปิฎก                  .โบสถ์                       .พระสงฆ์
54.ดินสอ : เขียน นาฬิกา : ?
.ชั่วโมง                      .เข็ม               .เวลา*           .เรือน

อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 55-56
“18 เมษายน ขอเชิญทุกคนไปเลือกผู้แทน
55.ข้อความนี้มีวัตถุประสงค์อย่างไร
.ชี้นำ              .ชักชวน*                  .จูงใจ             .บอกกล่าว
56.ข้อความนี้น่าจะเป็นของใครมากที่สุด
.ผู้สมัครรับเลือกตั้ง               .นักการเมือง
.ข้าราชการ*                          .หัวคะแนน

อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 57-58
ไม่มีชื่อ ไม่มีบัตร ไม่มีสิทธิ์
57.ข้อความนี้จัดเป็นประเภทใด
.แนะนำ         .ว่ากล่าว        .บังคับ           .ตักเตือน *
58.ข้อความนี้ต้องการผลในข้อใดมากที่สุด
.มีการเลือกตั้ง           .มีชื่อและบัตร           .การมีสิทธิ์*        .การใช้สิทธิ์

ถึงยากจนอย่างไรก็ไม่ว่า แต่พร้าขัดหลังมาจะยกให้
59.ท่านคิดว่าผู้กล่าวน่าจะมี ค่านิยม อย่างไร
.ยกย่องการทำตามประเพณี
60.แนวพลับพลึงขนานกับแนวกุหลาบ แต่ตั้งฉากกับแนวกระถิน รั้วบ้านตั้งฉากกับแนวกุหลาบ ฉะนั้น
.รั้วบ้านตั้งฉากกับแนวกระถิน

1.การเมืองคืออะไร
ก. ความเป็นไปของบ้านเมือง           ข.การเรียกร้องสิทธิต่างๆ
ค.การใช้อำนาจปกครอง*                 ง.สภาผู้แทนและวุฒิสภา
จ.การเลือกตั้งส.ส.
2.ข้อใดจัดเป็นสถาบันทางการเมือง
ก.มหาวิทยาลัย                                  ข.ศาลากลางจังหวัด
ค.พนักงานการศึกษาแห่งชาติ           ง.สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา*
จ.ไม่มีคำตอบถูกต้อง
3.คำว่า สิทธิ หมายความว่าอย่างไร
ก. ความสามารถที่จะทำอะไรก็ได้
ข.ความสามารถที่จะทำและใช้สิทธิทางกรเมืองอย่างเต็มที่
ค.ประโยชน์ที่กฎหมายรับรองและให้ความคุ้มครอง*
ง.ทำอะไรตามใจคือสิทธิของคนไทย
4.ในระบบประชาธิปไตยคือข้อใดสำคัญที่สุด
ข.ประชาขนมีเสรีภาพ
ค.มีรัฐธรรมนูญปกครองประเทศ
ง.อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน*
จ.มีการกระจาย อำนาจในการปกครอง
5.ข้อแสดงว่าระบอบประชาธิปไตยเสื่อม
ก.ไม่มีอิสระในการหาเสียง               ข.ไม่มีประชาชนมาลงคะแนนเลือกตั้ง*
ค.ไม่มีประชาชนร่วมเป็นกรรมการ  ง.ไม่มีคนฟังนักการเมืองปราศรัย
จ.ไม่มีกฎหมายพรรคการเมือง
6.สิ่งสำคัญประการแรกที่ทำให้ประเทศชาติเจริญคือข้อใด
ก.การศึกษาที่ดี*                                 ข.ทหารที่เข้มแข็ง
จ.คณะรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง
7.เลือกตั้งผู้แทนราษฎรเพื่ออะไร
ก. ยกระดับการปกครองระอบอบประชาธิปไตย
ข.ยกระดับการบริหารประเทศ
ค.ครบขั้นตอนของระบอบประชาธิปไตย
ง.ให้ประชาชนมีสิทธิในการปกครอง*
จ.ให้ประเทศเพื่อนบ้านยอมรับ
8.จริยธรรมทางการเมืองระบอบเผด็จการ คำนึ่งถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ
ก. ความเสมอภาค                              ข.เสรีภาพ
ค.อำนาจสมบูรณ์แห่งรัฐ*                   ง.ความเจริญของประเทศ
จ.ความยุติธรรมในสังคม
9.วัฒนธรรมทางการเมืองจะถูกปลูกฝังในตัวบุคคลได้ดีที่สุดในแหล่งใด
ก.โรงเรียน                                        ข.ครอบครัว*
ค.ที่ทำงาน                                         ง.สังคมโดยทั่วไป
จ.พรรคการเมือง
10.อำนาจอธิปไตยหมายถึงอะไร
ก.อำนาจของประชาชน                     ข.อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ*
ค.อำนาจทางรัฐสภา                          ง.อำนาจของรัฐบาล
จ.อำนายที่ใครจะทำเพื่ออะไรก็ได้โดยคนอื่นไม่มีสิทธิมาขัดขวาง
11.ประเทศที่มีการปกครองแบบใดจึงจะมีระบบกฎหมายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วทั้งประเทศ
ก.รัฐเดี่ยว*                                         ข.สหพันธ์
ค.สมาพันธ์                                       ง.สหภาพ
จ.สหรัฐ
12.ข้อใดไม่มีกล่าวไว้ในแนวนโยบายแห่งรัฐ
ก.การปราบปรามคอรัปชั่น               ข.การเก็บภาษีอากร*
ค.สงเคราะห์ผู้ประสบภัย                   ง.สนับสนุนงานวิจัยในวิทยาศาสตร์ต่างๆ
จ.การรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย
13.ประเทศไทยมีสภาสองสภาได้แก่สภาใดบ้าง
ก.รัฐสภากับสภาผู้แทนราษฎร          ข.วุฒิสภากับรัฐสภา*
ค.วุฒิสภากับพุทธสภา                      ง.วุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎร
จ.สภาผู้แทนราษฎรกับสภาสูง
14.ท่านคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องของใคร
ก.ประชาชนทุกคน*                           ข.รัฐสภาเท่านั้น
ค.พรรคการเมืองเท่านั้น                    ง.คณะรัฐมนตรีเท่านั้น
จ.ข้าราชการทุกคน
15.คนส่วนใหญ่เล่นการเมืองเพื่ออะไร
ก. ความมั่นคง                                  ข.เกียรติยศชื่อเสียง
ค.อำนาจ*                                          ง.กลุ่มของตนเอง
จ.สังคมสงเคราะห์
16.ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ไม่ไปใช้สิทธิถือว่าขาดคุณสมบัติข้อใด
ก.วัฒนธรรม                                     ข.อุดมการณ์
ค.จริยธรรม*                                      ง.อารยธรรม
จ.ทัศนคติ
17.อุปนิสัยอย่างไรส่งเสริมประชาธิปไตย
ก.ชอบระแวง                                     ข.ชอบนินทา
ค.ชอบเอาเปรียบ                                ง.ไว้ใจผู้อื่น*
จ.เห็นแก่ตัวเอง
18.เนื่องจากประเทศในปัจจุบันมีประชากรมาก สถาบันใดที่มีความสำคัญมากในระบอบประชาธิปไตย
ก.สถาบันตัวแทน*                             ข.สถาบันชนชั้นนำ
ค.สถาบันทางเศรษฐกิจ                     ง.สถาบันทางสังคม
จ.สถาบันทางการประกอบอาชีพ
19.เพราะเหตุใดการออกเสียงเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ก.เป็นอภิสิทธิ์ของพลเมืองของประเทศ
ค.เป็นแต่เพียงสิทธิของพลเมืองของประเทศ
ง.เป็นทรัพยากรทางการเมืองของพลเมืองของประเทศ
จ.เป็นคุณสมบัติของพลเมืองของประเทศ
20.การปกครองที่ดีต้องยึดหลักอะไรบ้าง
ก.หลักกฎหมาย*                                ข.หลักประเพณี
ค.หลักทางศาสนา                             ง.หลักทางเศรษฐกิจ
จ.หลักทางสิทธิทางการเมือง
21.สิ่งที่รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยพึงรับฟังคืออะไร
ก. ความต้องการของคนกลุ่มน้อยต่างๆ ทั้งหลาย
ค.ความต้องการของปัญญาชนที่มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
ง.ความต้องการของกลุ่มอิทธิพลเท่านั้น
จ.ความต้องการที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมเรียกร้อง
22.รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยจะต้องมีลักษณะอย่างไร
ก.มีความสามารถสูง                         ข.มีการรวมตัวอย่างมั่นคง
ค.มีอำนาจจำกัด*                               ง.มีประสบการณ์สูง
จ.มีความสามารถในการสืบต่องานสำคัญที่รัฐบาลชุดก่อนได้ทำไว้
23.การเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยนั้น จะกระทำได้ด้วยการมีส่วนร่วมในรูปใดๆ บ้าง
ก.การเลือกตั้ง การแสดงความคิดเห็น      ข.การจัดตั้งรัฐบาล
ค.การจัดตั้งกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมือง
ง.การแสดงประชามติ                               จ.ถูกทุกข้อ*
24.ระบอบการปกครองใดที่ส่งเสริมความเป็นอารยธรรมของมนุษย์ชาติ
ก.อัตราธิปไตย                                  ข.คณาธิปไตย
ค.อภิชนาธิปไตย                               ง.สาธารณรัฐประชาธิปไตย
จ.ประชาธิปไตย*
25.หลักสำคัญประการหนึ่งของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ได้แก่อะไร
ก.การใช้อำนาจเพื่อประสิทธิผล
ค.การใช้อิทธิพลเพื่อประสิทธิภาพ
ง.การรู้จักประนีประนอม*
จ.การจัดตั้งองค์การเพื่อประสิทธิภาพ
26.มนุษย์ในระบอบประชาธิปไตยนั้น ควรจะมีลักษณะนิสัยประการใด
ก.จิตใจไม่คับแคบ
ค.เชื่อมั่นและยึดถือแนวความคิดเห็นของตน
ง.ข้อ ก. และ ข.*
จ. ข้อ ข. และ ค.
27.การแข่งขันแบบใดที่ประชาธิปไตยส่งเสริมให้เกิดขึ้น
ก.แข่งขันกันอย่างเต็มที่
ข.แข่งขันกันอย่างเสรี
ค.แข่งขันกันโดยยึดความสามารถทางทุกทางเป็นหลัก
ง.แข่งขันในการกระทำดี
จ.ข้อ ก. ข. และ ค. ถูก*
28.ความเสมอภาคระหว่างมนุษย์เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยโดยประการใด
ก.เป็นภูมิหลังของประชาธิปไตย
ค.เป็นปรากฏการณ์ของประชาธิปไตย
ง.เป็นหลักการของประชาธิปไตย*
จ.เป็นองค์ประกอบของประชาชน
29.อะไรเป็นสิ่งที่ประชาธิปไตยไม่ปรารถนา
ก.อำนาจคืออำนาจ *                          ข.อำนาจคือธรรม
ค.อำนาจแห่งความยุติธรรม              ง.อำนาจแห่งมนุษย์ธรรม
จ.เมตตาธรรมคืออำนาจ
30.คุณค่าพื้นฐานของมนุษย์ที่ระบอบประชาธิปไตยต้องรักษาไว้ ได้แก่อะไร
ก.สิทธิเสรีภาพ                                  ข.ความเสมอภาค
ค.ไมตรีจิตระหว่างมนุษย์                  ง.ความสุขความเจริญร่วมกันของประชาชน
จ.ถูกทุกข้อ*
31.สิ่งหนึ่งซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยมีความเป็นอิสระมาช้านานได้แก่
ก.อาณาเขตของประเทศที่อยู่ห่างไกลจากประเทศอื่น
ค.ความก้าวหน้าของประชาชนภายในประเทศ
ง.ความสามารถในการรักษาความสงบภายในและความสามรรถในการป้องกันประเทศด้วยวิธีต่างๆ*
จ.การรู้จักใช้นโยบายเป็นกลาง
32.หลักในการผลิตสินค้าที่ว่า เมื่อผลิตสิ่งหนึ่งมากขึ้นก็ต้องผลิตสิ่งหนึ่งน้อยลง เป็นปัญหามูลฐานทางเศรษฐกิจด้านใด
ก.ปัญหาว่าจะผลิตอะไร                     ข.ปัญหาว่าจะผลิตเมื่อไร
ค.ปัญหาว่าจะผลิตจำนวนมากเท่าใด*
ง.ปัญหาว่าจะผลิตอย่างไร                   จ.ปัญหาว่าจะผลิตเพื่อใคร
33.เศรษฐกิจ หมายถึงอะไร
ก.ระบบการทำมาหากิน*                    ข.ระบบการวางแผนครอบครัว
ค.ระบบการสะสมทุน                        ง.ระบบการเก็บภาษี
จ.ระบบการปรับปรุงที่ดิน
34.ความต้องการขั้นต้นทางเศรษฐกิจมีอะไรบ้าง
ก. คน ทรัพยากร ตลาด โรงงาน
ข. การศึกษาดี มีเงินใช้ ไร้โรคา พาให้สุขสมบูรณ์
ง. เครื่องอุปโภค เครื่องบริโภค ที่พัก ยารักษาโรค
35.ข้อใดไม่ใช่แนวทางที่จะแก้ไขภาวะเงินเฟ้อได้
ก.เพิ่มปริมาณการผลิตสินค้า             ข.ลดต้นทุนการผลิต
จ.ควบคุมราคาสินค้า
36.ปัจจัยในการผลิตทางเศรษฐศาสตร์ ได้แก่อะไรบ้าง
ก.ที่ดิน แรงงาน ทุน ผู้ประกอบการผลิต*
ค.ที่ดิน เงิน วัตถุดิบ ผู้ประกอบการผลิต
ง.โรงงาน ทุน วัตถุดิบ ผู้ประกอบการผลิต
จ.ทุนโรงงาน วัตถุดิบ กรรมกร
37.ตัวการที่ทำให้เราต้องดิ้นรนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน นั้นคืออะไร
ก.สินค้า                                             ข.ทรัพย์
ค.บริการ                                            ง.ความต้องการ*
จ.วัตถุดิบ
 38.ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทยชนิดใดที่ผลิตได้โดยใช้วัตถุดิบในประเทศทั้งหมด
ก.กระดาษ                                          ข.วิทยุ
ค.เหล็กกล้า                                         ง.ปูนซีเมนต์
จ.สิ่งทอ*
39.ข้อเสียของระบบทุนนิยมคือ
ก.ก่อให้เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ*          ข.ทำให้คนว่างงานมาก
ค.เป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ง.แรงงานไม่มีอิสระในการเลือกตั้ง             จ.ถูกทุกข้อ
40.ปัญหาขั้นพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ได้แก่
ข.จะใช้ทรัพยากรอย่างไร เพื่อใคร ที่ไหน
ค.การผลิตจะได้กำไร หรือขาดทุน
ง.จะผลิตอะไร จำนวนเท่าไร และจะผลิตเพื่อใคร*
41.ผู้บริโภคทำหน้าที่ของตนในทางเศรษฐกิจโดยมุ่งหวังว่า
ก.จะได้รับความพึงพอใจสูงสุด*        ข.จะได้รับรายได้สุทธิสูงสุด
ค.จะได้รับกำไรสูงสุด                        ง.จะได้รับปัจจัยการผลิตสูงสุด
จ.จะได้รับสินค้าและบริการมากที่สุด
42.ปัจจัยในการพัฒนาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งสำคัญที่สุดจะขาดเสียมิได้คืออะไร
ก.ที่ดิน และแรงงาน                          ข.แรงงานและเทคโนโลยี
ค.เทคโนโลยีและทุน                        ง.ทุนและแรงงาน
จ.ที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ*
43.ผลิตภัณฑ์ในประเทศเบื้องต้น (GDP) กับผลิตภัณฑ์ในประเทศสุทธิ (NDP) แตกต่างกันในรายงานใดที่สำคัญ
ก.รายได้สุทธิจากต่างประเทศ           ข.ภาษีธุรกิจทางอ้อม
ค.เงินทุนโอนจากธุรกิจ                     ง.ค่าสึกหรอหรือค่าใช้ทุน*
จ.ภาษีส่วนบุคคล
44.การรวมตัวกันของบุคคล เพื่อช่วยเหลือกันทางเศรษฐกิจและสังคม โดยไม่หวังผลกำไรเรียกว่าอะไร
ก.สมาคม                                          ข.สหกรณ์*
ค.พรรคการเมือง                               ง.ชุมนุมผู้บริโภค
จ.องค์การรัฐวิสาหกิจ
45.รายได้ของผู้ซื้อราคาของสินค้า รสนิยม และสมัยนิยม เป็นตัวการกำหนดอะไร
ก.ดีมานต์*                                         ข.ซัพพลาย
ค.ดอกเบี้ย                                         ง.กลไกแห่งราคา
จ.ราคาจำหน่ายของสินค้า
46.ความสัมพันธ์ของมนุษย์ในสมัยก่อนที่รวมกันหาปัจจัยสี่ ต่อมาได้กลายเป็นความสัมพันธ์กันในทางใด
ก.การศึกษา                                       ข.การคมนาคม
ค.ครอบครัว                                      ง.เศรษฐกิจ*
จ.การปกครอง
47.ข้อใดมีผลทำให้การลงทุนในประเทศไทยซบเซาน้อยที่สุด
ก.คนไทยนิยมใช้ของไทย*
ค.ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ปฏิบัติการรุนแรง
ง.ทิศทางการเมืองของประเทศไม่แน่นอน
จ.ไม่สะดวกในการขออนุญาตสร้างโรงงาน
48.กลุ่มอาเซียนมีจุดมุ่งหมายใดเป็นสำคัญ
ก.ร่วมมือทางการทหาร                      ข.ร่วมมือทางเศรษฐกิจ*
ค.ร่วมมือทางเศรษฐกิจและทหาร       ง.ร่วมมือทางการกีฬา
จ.ร่วมมือกันป้องกันยาเสพติด
49.ปทัสถานใดเกี่ยวข้องกับการใช้คุณค่า และหลักศีลธรรม
ก.วิถีประชา                                      ข.จารีตประเพณี*
ค.กฎหมาย                                        ง.มารยาทในสังคม
จ.ข้อ ก. และ ข.
50.โครงสร้างของสังคมประกอบด้วยอะไรบ้าง
ข.กฎหมาย วิถีประชา และกฎศีลธรรม
ค.วัฒนธรรม สถานภาพ และบทบาท
ง.ปทัสถาน สถานภาพ และบทบาท*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น